วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สรุปเนื้อหา วิชา E-Publishing ครั้งที่ 2

เอกสาร Preprintละ Postprint     คืออะไร                                                                                                                                     
Preprint หมายถึง เอกสารที่ถูกส่งไปก่อนเพื่อตีพิมพ์ล่วงหน้า เป็นเรื่องย่อ หรือรายละเอียดของเรื่อง  กำหนดการลำดับเรื่อง ภาพประกอบ บางครั้งอาจเป็นรายงานความก้าวหน้าของงานวิจัย ซึ่งเข้าใจยากกว่าบทความประชุมทางวิชาการ หรือหมายถึงเอกสารที่ตีพิมพ์ล่วงหน้า รวมไปถึงสิ่งพิมพ์ที่มีกำหนดออกอย่างสม่ำเสมอ แต่นำมาตีพิมพ์ไว้ล่วงหน้าก่อน เช่น บทความในวารสารหรืออาจเป็นเรื่องย่อของบทความที่จะบรรยายในทีประชุม เพื่อแจกจ่ายให้ล่วงหน้า  นอกจากนี้ เอกสาร Preprint ยังหมายถึง เอกสารที่ยังมิได้ผ่านการพิจารณาจากกรรมการ
เอกสาร Postprint เป็นเอกสารหลังการจัดพิมพ์ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนจากเอกสาร Preprint ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการตีพิมพ์และกำลังได้รับการประเมินคุณภาพเอกสาร
Grey literature คือทรัพยากรสารสนเทศประเภท บทความวิจัย หรือวรรณกรรมที่ไม่มีการตีพิมพ์เผยแพร่  ซึ่งจัดได้ว่าเป็นเอกสารที่ค่อนข้างหาได้ยาก  มีการเผยแพร่ในวงจำกัด  เช่น รายงานการประชุมและสัมมนา  รายงานการศึกษา  การสำรวจ และการวิจัย 
               บทความวิชาการแบบ White Paper คือบทความที่บุคคล หรือกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ ได้นำเสนอเพื่ออธิบายถึงผลของการพัฒนา บริษัทธุรกิจเองใช้เทคนิค White Paper เพื่อนำเสนอสิ่งที่เขาต้องการชี้แจงแก่สังคมเกี่ยวกับงานวิชาการ งานประดิษฐและข้อค้นพบที่เขาดำเนินการอยู่ White Paper จึงไม่ใช่งานโฆษณา แต่ต้องเป็นเรื่องที่มีข้อมูลข้อเท็จจริง จัดเป็นกระบวนการให้การศึกษาแก่ประชาชน หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นกระบวนการให้การศึกษาเพื่อการตลาด แต่ไม่ใช่เรื่องของการโฆษณาชวนเชื่อ
กฎหมายลิขสิทธิ์กับงานสารสนเทศ
         ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว  ผู้คนจำนวนมากได้รับประโยชน์จากการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายถูกลง การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจึงเป็นไปโดยสะดวกมากยิ่งขึ้น ผู้เป็นเจ้าของข้อมูลข่าวสารก็สามารถส่งข้อมูลไปยังสาธารณชนได้ง่ายและกว้างขวางรวดเร็วมากขึ้น แต่ขณะเดียวกัน การนำเอางานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่นมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ เป็นเครื่องมือก็มีมากตามไปด้วย  ดังนั้น ผู้ประกอบการในด้านกลุ่มอุตสาหกรรมจึงได้รับผลกระทบจากการละเมิดลิขสิทธิ์มากที่สุด แม้ว่างานสร้างสรรค์เหล่านี้จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์และมีอายุการคุ้มครองที่ยาวนานกว่าทรัพย์สินทางปัญญาประเภทอื่น
กฎหมายลิขสิทธิ์ มาตรา 32 การกระทำแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ หากไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์และ ไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร มิให้ถือว่า เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์  ภายใต้บังคับบทบัญญัติในวรรคหนึ่ง การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งาน อันมีลิขสิทธิ์ตามวรรคหนึ่งมิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
1.วิจัยหรือศึกษางานนั้น อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร
2. ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่น ในครอบครัวหรือญาติสนิท
 3. ติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ในงานนั้น
 4. เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของ ลิขสิทธิ์ในงานนั้น
5. ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏ เพื่อประโยชน์ในการ พิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย หรือในการรายงานผลการ พิจารณาดังกล่าว
6. ซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏโดยผู้สอน เพื่อประโยชน์ ในการสอนของตน อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร
                7. ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตัดทอนหรือทำบทสรุปโดยผู้สอน หรือสถาบันศึกษา เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายแก่ผู้เรียนในชั้นเรียนหรือในสถาบันศึกษา ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นการกระทำเพื่อหากำไร ( 8 ) นำงานนั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ
ในการพิจารณาว่าการใช้เป็นการกระทำเพื่อหากำไรหรือไม่ จะพิจารณาจาก การใช้ เป็นเกณฑ์ ไม่ใช่พิจารณาจาก ตัวผู้ใช้ เช่น สถาบันการศึกษาเอกชนที่นำตำราเรียนบางส่วนที่มีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นมาจำหน่ายในสถาบันฯ เช่นนี้ แม้ว่าสถาบันจะเป็นโรงเรียนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไรในการดำเนินการสถาบัน แต่ไม่ได้จำหน่ายสำเนาตำราเรียนเกินราคาถ่ายหรือจัดทำเอกสาร ก็ถือว่าเป็นการใช้โดยไม่แสวงหากำไร จึงเป็นการใช้งานลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรม เป็นต้น
ปริมาณการใช้งานลิขสิทธิ์
1. ภาพเคลื่อนไหว
2. ดนตรีกรรม และมิวสิควิดีโอ   สามารถทำซ้ำและหรือเผยแพร่ได้ไม่เกิน 10% หรือ 3 นาที ของแต่ละเรื่อง  สามารถทำซ้ำ และ / หรือ ในสำเนางานได้ไม่เกิน 10% แต่ต้องไม่มากกว่า 30 วินาที ของแต่ละ งานและจะดัดแปลงทำนองหรือส่วนอันเป็นสาระสำคัญไม่ได้
3 . รูปภาพและภาพถ่ายใช้ได้ไม่เกิน 5 ภาพ ต่อผู้สร้างสรรค์ 1 ราย หากเป็นการใช้ภาพจากงานวารสารหรือสิ่งพิมพ์ สามารถใช้ได้ไม่เกิน 10% หรือ 15 ภาพ ของจำนวนภาพทั้งหมดที่ปรากฏในวารสารหรือ สิ่งพิมพ์นั้น
4. ข้อความทำซ้ำและหรือเผยแพร่ได้ไม่เกิน 10% หรือ 1,000 คำ ของแต่ละเรื่องหรือแต่ละบทความ
5. ข้อมูลจากงานรวบรวมอันมีลิขสิทธิ์ไม่เกิน 10% หรือ 2,500 รายการ / ข้อมูล
ระยะเวลาที่ให้ความคุ้มครอง
                ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียว ในการใช้ประโยชน์จากผลงานสร้างสรรค์ของตน ในการทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน รวมทั้งสิทธิในการให้เช่า โดยทั่วไปอายุการคุ้มครองสิทธิจะมีผลเกิดขึ้นทันทีที่มีการสร้างสรรค์ผลงาน โดยความคุ้มครองนี้จะมีตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ และคุ้มครองต่อไปอีก 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์เสียชีวิต  แต่ในปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นเป็น 70 ปี แล้ว และในประเทศสหรัฐอเมริกา  ผลงานขององค์กรมีการคุ้มครองเป็นระยะเวลาถึง 120 ปี เนื่องจากมีการเพิ่มจำนวนอายุการคุ้มครองเพิ่มขึ้น

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สรุปเนื้อหา OPEN ACCESS Introduction ครั้งที่ 1

ความสำคัญของการพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์
        หนังสือที่มีอยู่โดยทั่วไป จะมีลักษณะเป็นเอกสารที่จัดพิมพ์ด้วยกระดาษ แต่ด้วยความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย และความเปลี่ยนแปลงด้านเล็กทรอนิกส์ ที่มีการพัฒนาต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้มีการคิดค้นวิธีการใหม่โดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย จึงได้นำหนังสือดังกล่าวเหล่านั้นมาทำคัดลอก โดยที่หนังสือก็ยังคงสภาพเดิมแต่จะได้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นแฟ้มภาพขึ้นมาใหม่ ด้วยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อแปลงภาพตัวหนังสือให้เป็นตัวหนังสือที่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้
การถ่ายทอดข้อมูลในระยะต่อมา จะถ่ายทอดผ่านทางแป้นพิมพ์ และประมวลผลออกมาเป็นตัวหนังสือและข้อความด้วยคอมพิวเตอร์ ดังนั้นหน้ากระดาษก็เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นแฟ้มข้อมูลแทน ทั้งยังมีความสะดวกต่อการเผยแพร่  เมื่ออินเทอร์เน็ตได้รับความนิยมมากขึ้น จึงมีการผลิตเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ขึ้น  เป็นลักษณะเหมือนกับหนังสือทั่วไป เช่น สามารถแทรกข้อความ แทรกภาพ จัดหน้าหนังสือได้ตามความต้องการของผู้ผลิต
เอกสารดิจิตอล ( Electronic documents )
                เอกสารดิจิตอล หมายถึง สื่อที่มีการนำเอาข้อความ กราฟิก ภาพเคลื่อนไหว เสียง และ วิดีโอ เป็นต้น โดยอาศัยเทคโนโลยีความเจริญก้าวหน้าทางด้านคอมพิวเตอร์ เข้ามาช่วยให้ข้อมูลที่เป็นสื่อต่างๆ เหล่านั้นมาแปลงสภาพ และเชื่อมโยงเข้าด้วยกันเพื่อประโยชน์ในการใช้งาน และสามารถเผยแพร่เข้าสู่ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้อีกด้วย
Open Access (OA)
เป็นแหล่งสารสนเทศรูปแบบใหม่  ที่จัดทำขึ้นมาโดยนักวิจัย  หรือนักวิชาการ และต้องการเผยแพร่ข้อมูลงานวิจัยของตนเอง ลงในวารสารวิชาการโดยไม่ต้องจ่ายเงิน ซึ่งอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะชน เกิดการเข้าถึงผลงานในรูปของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการเผยแพร่ทั่วโลก ครอบคลุมทั้ง วิทยานิพนธ์ เอกสารสัมมนา การประชุม เอกสารการสอน และสื่อโสตทัศนวัสดุ เช่น วิดีโอ เพลง ภาพ  ซึ่งเปิดให้เข้าถึงได้อย่างอิสระ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย  เป็นแนวโน้มของการทำ E-Publishing ในปัจจุบันที่สามารถให้ผู้อื่นเข้าถึงได้โดยเสรี  เป็นการสร้างการศึกษาแบบแบ่งปันความรู้ในกลุ่มที่ต่างระดับกันให้เข้าถึงได้ฟรี ไม่มีการกีดกันเรื่องลิขสิทธิ์

Institutional Repository (IR) คืออะไร
                 Institutional Repository (IR)  หรือ คลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบัน นั้น หมายถึง คลังเก็บทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล อันเป็นภูมิปัญญาของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีการจัดเก็บเป็นศูนย์รวม มีการสงวนรักษา และมีการจัดทำดัชนีที่ได้มาตรฐาน สามารถสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศเหล่านั้นได้  หรือกล่าวได้ว่า คลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบันเป็นบริการหรือหน้าที่ของมหาวิทยาลัยในการจัดการและเผยแพร่ผลงานในรูปแบบดิจิทัล อันเป็นผลงานหรือผลผลิตของคณาจารย์ นักวิจัย นิสิต และนักศึกษา  ซึ่งผู้ใช้ทั้งภายในและภายนอกสามารถเข้าถึงได้ และผลงานเหล่านั้น นอกจากจะเป็นรายงานที่กำลังดำเนินงาน  รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์แล้วยังหมายรวมถึงผลงานที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์เผยแพร่  เพราะฉะนั้น สถาบันอุดมศึกษาหรือมหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานวิจัยควรตระหนักถึงคุณค่าของภูมิปัญญาหรือผลงานทางวิชาการของคณาจารย์ และนักวิจัยที่มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งสมควรได้รับการจัดเก็บ และเผยแพร่ในรูปของดิจิทัล รวมทั้งการสงวนรักษาผลงานเหล่านั้นให้คงไว้ในระยะยาว  และถือเป็นบทบาทหลักของมหาวิทยาลัย หน่วยงานวิจัย ในการเผยแพร่ผลงานต่างๆ เหล่านี้ออกสู่โลกภายนอก